หลายคนน่าจะเคยได้ยินข่าวการฆ่าตัวตายของคนในวงการบันเทิงหรือบุคคลทั่วไปมามากมายและกล่าวโทษพวกเขาว่า “ทำไมจึงคิดสั้น ไม่เห็นความรักของพ่อแม่บ้างเลย” แต่คุณรู้มั้ยว่าตัวเองกำลังเข้าใจพวกเขาผิดมาก ไม่มีใครที่อยากทำอะไรแบบนี้หรอกถ้าความอัดอั้นและความเก็บกดมันมาถึงจุดสูงสุดของโรคซึมเศร้าแล้วจริง ๆ วันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกว่าโรคซึมเศร้าคืออะไร? แล้วแตกต่างจากภาวะซึมเศร้าทั่วไปอย่างไร? ทำไมเราจึงบอกไปว่าคุณไม่ควรกล่าวโทษพวกเขา เราเชื่อว่าหากคุณยอมเปิดใจอ่านก็จะต้องเข้าใจพวกเขาแน่นอน
โรคซึมเศร้าคืออะไร?
โรคซึมเศร้า (Depression) เป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่งที่ผู้ป่วยจะมีอาการเศร้า มองเห็นทุกอย่างในแง่ลบไปหมดไม่ว่าจะเป็นคนอื่นหรือตัวเองซึ่งไม่ว่าจะทำกิจกรรมใด ๆ ก็ยังคงไม่ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นเหมือนปกติ บางคนอาจเป็นหนักถึงขนาดไม่มีแรง ร่างกายค่อย ๆ ทรุดโทรมล้มป่วยลง และสามารถนำมาซึ่งจุดจบของชีวิตได้หากไม่มีคนดูแลอย่างใกล้ชิด
โรคซึมเศร้าเกิดจากอะไร?
โรคซึมเศร้าเกิดจากการหลั่งที่ผิดปกติของสารเคมีในสมองที่ไม่เท่ากันจนส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางอารมณ์ซึ่งจะนำไปสู่ทิศทางด้านลบทุกอย่าง ไม่ว่าจะมองอะไรจึงกลายเป็นความเครียดและเศร้าหมองไปเสียหมด ซึ่งสิ่งที่ทำให้สารเคมีหลั่งออกมาผิดปกติเช่นนี้ก็มาจากสภาพแวดล้อมรอบตัวนั่นเอง
โดยปกติสมองคนเราจะหลั่งสารเคมีแห่งความสุขออกมาจากการใช้ชีวิตและทำกิจกรรมสนุกสนาน แต่เมื่อสภาพรอบตัวคุณได้เจอแต่เรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่ดีไปเสียหมด ทำให้ภาวะซึมเศร้าอันแสนธรรมดาอย่างที่ทุกคนคิดสะสมกันเรื่อย ๆ ทำให้สารความสุขน้อยลงจนมีการหลั่งสารด้านลบออกมามากเกินไปจนเกิดเป็นความเครียดและสุดท้ายก็อัพเลเวลมาเป็นโรคซึมเศร้าด้วยประการฉะนี้

อาการของโรคซึมเศร้า
เนื่องจากโรคซึมเศร้าเป็นเลเวลที่ถูกอัพมาจากภาวะซึมเศร้าปกติทำให้คุณไม่สามารถควบคุมตัวเองให้กลับมาร่าเริงได้ในหลายครั้ง อาการที่คุณต้องตรวจสอบว่าเข้าข่ายโรคซึมเศร้าหรือไม่ มีดังนี้
1.การไม่อยากออกไปร่วมสังคมกับใครไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือญาติพี่น้อง
2.เหนื่อยกับการที่ต้องยิ้มและพูดแม้จะเป็นกับตัวเองก็ตาม คุณจะอยากพูดคุยและกรีดร้องกับตัวเองในใจทุกเวลา
3.มองเห็นทุกอย่างในแง่ลบหมดไม่ว่าจะเป็นคนที่เข้าหาคุณ หรือสภาพสังคมที่อยู่รอบตัว คุณจะรู้สึกระแวง ไม่ไว้ใจและเหมือนมีเสียงตอกย้ำในหัวบ่อย ๆ ว่า “ไม่มีใครรักฉันหรอก พวกเขาคิดว่าฉันเรียกร้องความสนใจ”
4.รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรก็ไม่ดีไปเสียหมด ทุกอย่างเป็นความผิดของตัวเอง ทำไมต้องมีชีวิตอยู่เพื่อสร้างเรื่องเดือดร้อน ไม่สบายใจให้คนอื่น บางครั้งความรู้สึกนี้อาจเป็นหนักถึงขั้นไม่อยากตื่นในตอนเช้าของทุกวัน เหมือนร่างกายค่อย ๆ จมดิ่งใต้ก้นบึ้งที่หาทางออกไม่เจอซึ่งก็รู้สึกดีที่จะได้อยู่ในโลกที่ไม่ต้องทำร้ายใครได้อีก แต่ลึก ๆ คุณกลับอยากตะโกนร้องเรียกหาใครสักคนที่สามารถมาฉุดคุณขึ้นมาจากน้ำได้ด้วยความเข้าใจอย่างแท้จริง
วิธีต่อสู้กับโรคซึมเศร้า
1.คุณควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง
2.การนั่งสมาธิหรือปฏิบัติธรรมไม่สามารถช่วยได้ดีเท่ากับการทำกิจกรรมร่วมกับคนที่รัก อยู่ร่วมกันคอยดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยความรักและความเอาใจใส่ตลอดเวลา เพราะคนดูแลต้องไม่ลืมว่าโรคซึมเศร้าไม่ได้เกิดจากอารมณ์ของผู้ป่วยเหมือนภาวะซึมเศร้าทั่วไปที่แค่ทำจิตให้สงบหรือสวดมนต์ก็ดีขึ้นแล้ว แต่เกิดจากสารเคมีในสมองที่ตัวของผู้ดูแลนั่นเองที่จะทำให้มันกลับมาสมดุลได้อีกครั้ง
3.ผู้ดูแลไม่ควรใช้อารมณ์กับผู้ป่วย แต่ให้ใช้เหตุผลและพูดดี ๆ ด้วยรอยยิ้มกับเขาเสมอเพราะผู้ป่วยโรคซึมเศร้าไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้
4.ที่สำคัญที่สุดในการดูแลผู้ป่วยโรคซึมเศร้า คือ “ฉันรักคุณ” แค่คำนี้ที่พวกเขาอยากได้ยินทุกวันจากคนที่รัก

รูปภาพประกอบ Unsplash
#โรคซึมเศร้า #อาการของโรคซึมเศร้า #วิธีต่อสู้กับโรคซึมเศร้า