เมื่อหลายปีมาแล้วช่วงที่ผมยังทำงานเป็น ผจก. ฝ่ายบุคคลใน รง. อุตสาหกรรมย่านสมุทรปราการ เป็นกิจการฟอก ย้อมเส้นด้าย และผ้าผืน มีพนักงานพอประมาณ และเครื่องจักรอีกจำนวนหนึ่ง พนักงานเข้างานเป็นกะ ทั้งหญิงและชาย ต้องทำงานเกี่ยวกับสารเคมีในการฟอกย้อม ซึ่งมีอันตรายที่ต้องระวังอย่างมาก มีพนักงานประสบอุบัติเหตุจากเครื่องจักรต้องเข้ารักษาตัวที่ร.พ. ตำรวจ และผมก็ต้องทำหน้าที่ไปเยี่ยม และเป็นตัวแทนของบริษัท
ในคืนวันหนึ่งหลังจากเลิกงานแล้ว ผมมาถึง ร.พ.ประมาณ 19.00 น. ยืนรอเพื่อขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน บรรยากาศที่ ร.พ.ช่างเงียบเหงา และวังเวงอย่างไรชอบกล หรืออาจเป็นเพราะผมคิดไปเองก็ได้ นาน ๆ จะมีคนเดินสวนทางมาสักคน ซึ่งก็คงเป็นเจ้าหน้าที่ของ ร.พ.นั่นเอง กลิ่นเฉพาะของ ร.พ. ที่จะเหมือนกลิ่นยา หรือแอลกอฮอก็คงไม่ผิดลอยคละคลุ้มมาตามอากาศเข้าจมูกผมอย่างจัง ไม่เป็นไรผมคิดในใจ ก็นี่มันเป็นที่ ร.พ.นี่นาจะไม่ให้มีกลิ่นอย่างนี้ได้อย่างไร
สักครู่ลิฟต์เลื่อนลงมาและเปิดออกเหมือนเป็นการต้อนรับผู้มาเยือน ผมก้าวเท้าเดินเข้าไป แต่ต้องตกใจสดุ้งสุกตัวเมื่อมีกระแสลมพัดวูบมาทางด้านหลัง ลักษณะเหมือนมีใครสักคนเดินชน หรือกระแทกตัวผมจนเซไปข้างหน้า ผมรู้สึกได้จริงและเริ่มใจเต้นระทึก เข้ามาอยู่ในลิฟต์แล้วประตูลิฟต์ปิดสนิท และกำลังเคลื่อนตัวขึ้นข้างบน
ความรู้สึกผมบอกตัวเองว่าเราไม่ได้อยู่เพียงลำพัง แต่มีอะไร หรือใครก็ไม่รู้โดยสารขึ้นมาด้วย บอกตรง ๆ ถ้าเกิดอะไรที่ไม่คาดฝันขึ้นมาให้เห็น หรือปรากฏตัวตอนนี้ผมจะหนีไปทางไหนเพราะนี่มันเหมือนห้องแคบ ๆ สี่เหลี่ยมจัตุรัสดี ๆ นี่เอง แต่เดชะบุญที่ไม่เกิดเรื่องร้ายแรงอะไร

ลิฟต์เลื่อนขึ้นมาถึงชั้นที่ผมต้องการ และหยุดเพื่อเปิดประตู ขณะที่ผมกำลังจะเดินก้าวออกจากลิฟต์ ก็มีกระแสลมผัดจากด้านในออกมาด้านนอกเหมือนว่ากำลังมีพลังหรืออะไรสักอย่างซึ่งไม่น่าเป็นไปได้เพราะลิฟต์ไม่ได้โปร่งเหมือนอย่างด้านนอก ถ้ามีลมพันจากด้านนอกเข้าด้านในก็คงไม่แปลก แต่นี่กระแสลมพัดจากด้านในออกมาด้านนอก ซึ่งน่าแปลกมากมันผิดธรรมชาติไปแยะทีเดียว ผมยืนงงอยู่สักอึดใจ กว่าจะได้ก้าวออกมาพ้นประตูลิฟต์เจ้ากรรมตัวนั้น
เมื่อเยี่ยมคนป่วยเสร็จผมก็ต้องมาใช้บริการลิฟต์อีกครั้งเพื่อจะลงไปด้านล่าง บังเอิญให้มีพยาบาลมาใช้บริการร่วมด้วย เธอยิ้มให้ถามว่าไม่รอเพื่อนหรือ ไม่รอหลอกครับเพราะเพื่อน (ผมหมายถึงผู้ป่วยที่นอนอยู่ในห้องพยาบาล) คงต้องพักอีกหลายวัน
พยาบาลยิ้มให้ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร ขณะผมขับรถกลับบ้าน ผมหวนนึกถึงคำพูดของเธอที่ว่า “ไม่รอเพื่อนหรือ” แท้จริงแล้วเธอคงไม่ได้หมายความถึงคนป่วย แต่ต้องหมายถึงใครสักคน หรือว่าเธอเห็นผู้ที่ขึ้นลิฟต์มาพร้อมผม แล้วทำใมขากลับผมไม่รอ แต่กลับเพียงลำพัง นี่มันหมายความว่าผู้ที่ขึ้นลิฟต์มากับผมแต่ผมมองไม่เห็น แต่เธอเห็นและนึกว่าเป็นเพื่อนที่มากับผมงั้นหรือ หรือว่าเป็นวิญญาณ หรือว่าผมอุปทานไปเอง ใครรู้ช่วยตอบผมหน่อย….