พระคัมภีร์กล่าวว่ามนุษย์ต้องใช้สติปัญญาวิเคราะห์ตัวเลขหกสามตัวและเมื่อปฏิปักษ์ของพระคริสต์ถูกเปิดเผย คนจะรู้ว่าเขาเป็นใครและเลขหกสามตัวจะระบุตัวตนของเขา เดเมียน เด็กชายที่ทูตอเมริกันคนหนึ่งนำเขามาเลี้ยงแทนลูกที่เสียชีวิตหลังคลอดโดยที่ภรรยาของเขาไม่ทราบ เมื่อเขาเติบโตขึ้นมีเหตุการณ์ลึกลับและการเสียชีวิตที่น่าสยดสยองเกิดขึ้นกับคนรอบข้างของครอบครัว พวกเขาจึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเดเมียนคือผู้ที่ต่อต้านพระเจ้าที่ถูกทำนายไว้ในพระคัมภีร์ ต่อไปนี้คือเรื่องราวในดิโอเมน (The Omen) เป็นภาพยนตร์สยองขวัญอเมริกัน-อังกฤษ ปี 1976
กรุงโรม ประเทศอิตาลี แคทเธอลีน ธอร์น ภรรยาของโรเบิร์ต ธอร์น นักการทูตชาวอเมริกันได้ให้กำเนิดเด็กชายผู้หนึ่งโดยไม่ทราบว่าเด็กชายเสียชีวิตตอนคลอด บาทหลวง สเปิเลตโตได้ขอร้องให้โรเบิร์ตรับเด็กชายคนหนึ่งที่แม่ของเด็กเสียชีวิตตอนคลอดไปแทนโรเบิร์ตยอมตกลงแต่ไม่บอกให้แคทเธอรีนรู้ว่าเด็กไม่ใช่ลูกจริง พวกเขาตั้งชื่อทารกคนนี้ ว่าเดเมียน

ห้าปีต่อมาเมื่อเดเมียนเติบโตขึ้นเด็กชาย โรเบิร์ตได้รับแต่งตั้งให้เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหราชอาณาจักร ระหว่างงานวันเกิดปีที่ห้าของเขา มีสุนัขรอดไวเลอร์ตัวใหญ่ปรากฏตัวใกล้บ้าน พี่เลี้ยงของเดเมียนแขวนคอตัวเองจากหน้าต่าง นางเบย์ล็อคพี่เลี้ยงคนใหม่ผู้ลึกลับเดินทางมาถึงโดยไม่บอกกล่าว
เดเมียนไม่ต้องการไปโบสถ์ การปรากฏตัวของเดเมียนทำให้สัตว์ต่างๆหวาดกลัว แคทเธอรีนเริ่มกลัวเดเมี่ยนมากขึ้นและพยายามอยู่ห่างจากเขา
คุณพ่อเบรนแนนนักบวชคาทอลิกเตือนโรเบิร์ตเกี่ยวกับกำเนิดอันลึกลับของเดเมียนโดยบอกเป็นนัยว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ เขาบอกโรเบิร์ตว่าแคทเธอรีนกำลังจะตั้งครรภ์และเดเมียนจะขัดขวางไม่ให้เด็กเกิด แต่หลังจากนั้นคุณพ่อเบรนแนนก็เสียชีวิตด้วยเหล็กแหลมที่หล่นลงมาจากหลังคาโบสถ์ในขณะที่เกิดพายุอย่างกะทันหัน แคทเธอรีนบอกโรเบิร์ตว่าเธอท้องและเธอต้องการทำแท้ง
คีธ เจนนิงส์ ช่างภาพคนหนึ่งได้ทราบข่าวเรื่องการเสียชีวิตของคุณพ่อเบรนแนน เขาสังเกตเห็นเงาในรูปถ่ายของพี่เลี้ยงเด็กและของคุณพ่อเบรนแนนที่ดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการเสียชีวิตที่แปลกประหลาดของพวกเขา รูปถ่ายของคีธเองก็ปรากฏให้เห็นเงาแบบเดียวกันที่คอของเขา คีธให้รูปถ่ายโรเบิร์ตดูและบอกว่าเขาเชื่อว่าเดเมียนอันตราย
วันหนึ่งขณะที่โรเบิร์ตไม่อยู่บ้าน เดเมียนกระแทกแคทเธอรีนเหนือราวกั้นบันไดชั้นบนตกลงไปที่พื้นด้านล่าง แคทเธอลีนบาดเจ็บสาหัสและแท้งลูก
คีธเดินทางไปโรมกับโรเบิร์ตเพื่อสืบหาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเดเมียน พวกเขาพบว่าเหตุเพลิงไหม้ได้ทำลายบันทึกการคลอดในโรงพยาบาลเมื่อหลายปีก่อน และไฟได้คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันนั้น ในที่สุดพวกเขาติดตามไปพบคุณพ่อสปิเลตโตในอารามแห่งหนึ่งในซูเบียโค ซึ่งพบว่าเขากลายเป็นคนใบ้ตาบอดข้างหนึ่งและเป็นอัมพาต

คุณพ่อสปิเลตโตเขียนชื่อสุสานโบราณอีทรูสคานในเซอเวเทริที่ฝังศพมารดาผู้ให้กำเนิดเดเมียนให้ทั้งสอง โรเบิร์ตและคีธเข้าไปในสุสานตอนกลางคืนและพบซากศพในหลุมศพแม่ของเดเมียน ในหลุมข้างๆมีโครงกระดูกของเด็กที่มีกะโหลกแตกอยู่ด้วย โรเบิร์ตรู้ทันทีดีว่าซากศพคือแม่ที่ไม่ใช่มนุษย์ของเดเมียนและซากศพเด็กที่อยู่ข้างๆเธอคือลูกชายของเขาที่ถูกฆ่าตายเพื่อให้เดเมียนเข้ามาแทนที่
คีธเชื่อว่าเดเมียนเป็นผู้ต่อต้านพระคริสต์ การมาของเขาได้รับการสมรู้ร่วมคิดของพวกซาตาน ขณะออกจากสุสานสุนัขจรจัดฝูงหนึ่งไล่กัดโรเบิร์ตและคีธ โรเบิร์ตโทรหาแคทเธอรีนซึ่งยังอยู่ในโรงพยาบาลและบอกให้เธอรีบออกจากลอนดอน เธอเห็นด้วยแต่เมื่อเธอเผชิญหน้ากับนางเบย์ล็อคในห้องพยาบาล นางเบย์ล็อคโยนเธอออกทางหน้าต่างจนเสียชีวิต
โรเบิร์ตและคีธเดินทางไปอิสราเอลเพื่อพบกับคาร์ล บูเกเฮเกนนักโบราณคดีและผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านพระคริสต์ เขาอธิบายว่าถ้าเดเมียนเป็นผู้ต่อต้านพระเจ้าจริงเขาจะมีปานเป็นรูปเลขหกสามตัวอยู่หลังศีรษะ
คาร์ลมอบมีดเจ็ดเล่มจากเมกิดโดให้โรเบิร์ต และแนะนำให้เขาใช้มันสังหารเดเมียนบนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ โรเบิร์ตไม่ต้องการที่จะฆ่าเด็กเขาจึงโยนมีดเข้าไปในไซต์งานก่อสร้าง เมื่อคีธพยายามจะไปหยิบกลับมาเขาก็ถูกตัดหัวด้วยแผ่นกระจกที่เลื่อนลงมาจากรถบรรทุก
โรเบิร์ตกลับไปลอนดอนและพบว่าเดเมียนมีปานเลขหกสามตัวบนหนังศีรษะของเขาจริง นางเบย์ล็อคเข้ามาทำร้ายโรเบิร์ตแต่ในที่สุดเขาก็แทงเธอตาย
โรเบิร์ตบังคับให้เดเมียนขึ้นรถและเขาขับรถไปยังมหาวิหารที่อยู่ใกล้เคียงโดยมีมีดติดมือไปด้วย การขับรถที่เร็วผิดปกติของเขาทำให้ตำรวจขับรถติดตามเขาไป
โรเบิร์ตลากเดเมียนที่ส่งเสียงร้องตลอดเวลาเข้าไปในโบสถ์และวางเขาไว้บนแท่นบูชา โรเบิร์ตยกมีดเพื่อจะแทงเดเมียนและวิงวอนขอการอภัยโทษจากพระเจ้า แต่ถูกตำรวจที่เข้าไปในโบสถ์ยิงตายเสียก่อน
ในงานพิธีฝังศพของแคทเธอรีนและโรเบิร์ต มีประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาเข้าร่วม เดเมียนหันมาสังเกตเห็นขบวนแห่ศพและยิ้ม ภาพยนตร์จบลงด้วยบทวิวรณ์ 13:18 ในพระคัมภีร์ไบเบิล
เครดิตภาพ Den of Geek, Cinema Blend, Mentalfloss
#เล่าเรื่องหนัง #ดิโอเมน (The Omen) 1976 #หนังซาตาน