การต่อต้านสงครามและการแสวงหาสันติภาพเกิดขึ้นมานานมากแล้ว โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา มันเด่นชัดมากในสมัยสงครามเวียดนาม ศิลปินหลายคนแต่งเพลงหลายเพลงเพื่อต้องการแสดงออกถึงการรณรงค์เพื่อการต่อต้านสงครามและการเชิดชูเรื่องสันติภาพและความสงบสุข
บอบ ดีแลน เป็นอีกศิลปินที่ได้แต่งเพลงออกมาเพื่อรณรงค์ในเรื่องการต่อต้านสงครามและการแสวงหาสันติภาพอยู่หลายเพลง เพลงๆ หนึ่งที่ยังเป็นที่จดจำของคนทั้งโลกคือเพลง “ล่องลอยไปในสายลม” หรือ Blowing in the Wind

เพลงนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านสงครามและแสวงหาสันติภาพ บอบ ดีแลน แต่งเพลงนี้ไว้ในปี 1962 เนื้อเพลงว่า “ชายคนหนึ่งต้องเดินลงไปบนถนนสักกี่ครั้ง ก่อนที่คุณจะเรียกเขาว่าผู้ชาย นกพิราบขาวต้องบินแล่นไปในทะเลสักกี่ผืน ก่อนที่เธอจะนอนหลับบนผืนทราย ลูกปืนใหญ่ต้องถูกยิงอีกกี่ครั้งก่อนที่มันจะถูกห้ามยิงตลอดไป คำตอบเพื่อนของฉันกำลังล่องลอยไปในสายลม คำตอบคือล่องลอยไปในสายลม ขุนเขาจะต้องอยู่ไปอีกกี่ปีก่อนที่จะถูกชะล้างลงสู่ทะเล และคนบางคนสามารถอยู่ไปอีกกี่ปี ก่อนที่จะได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ใช่แล้วคนบางคนจะหันหน้าหนีอีกกี่ครั้งและทำเป็นว่าเขาไม่เห็นไม่ได้ยิน คำตอบเพื่อนของฉันกำลังล่องลอยไปในสายลม คำตอบคือล่องลอยไปในสายลม”
เมื่อมองไปในความคิดของชาวอเมริกันสมัยเริ่มต้นสงครามเวียดนาม พวกเขาคงมีคำถามว่าทำไมเด็กหนุ่มชาวอเมริกันที่เคยมีชีวิตอยู่กับสันติภาพถึงต้องเอาชีวิตไปทิ้งในเวียดนามแผ่นดินที่อยู่ห่างจากบ้านเกิดหลายพันกิโลเมตร โดยไม่เคยมีความโกธรและความเกลียดกับคนที่รัฐบาลพยายามบอกว่าคือศัตรู มันเหมือนกับภาพลวงตาของโลกเสรีที่ต้องการสร้างความน่ากลัวให้กับคอมมิวนิสต์เท่านั้น

เมื่อมีคนถามบอบ ดีแลนเกี่ยวกับเพลงแห่งสันติภาพเพลงนี้ เขากล่าวตอบว่า “ผมไม่มีอะไรจะพูดมากเกี่ยวกับเพลงนี้ เพราะคำตอบนั้นมันถูกพัดมาในสายลม มันไม่ได้อยู่ในหนังสือ ภาพยนตร์ รายการทีวีหรือในวงสนทนา คำตอบมันอยู่ในสายลมและมันก็ถูกพัดไปตามสายลม คนหนุ่มหลายคนหลายคนถามผมว่าคำตอบอยู่ที่ไหน ผมยังคงพูดว่ามันอยู่ในสายลมและเหมือนเศษกระดาษมันต้องร่วงหล่นลงมา แต่ปัญหาคือไม่มีใครหยิบคำตอบเมื่อมันตกลงมา มีคนไม่มากที่จะได้เห็นและรู้ แล้วมันก็ล่องลอยจากไป ผมขอพูดว่าอาชญากรใหญ่บางคนคือพวกที่หันหน้าหนีเมื่อพวกเขาเห็นและรู้ว่ามันผิด ผมอายุเพียง 21 ปีและผมรู้สึกว่ามีสงครามมากมายเกินไป คุณอายุมากกว่า 21 ปีคุณแก่กว่าและฉลาดกว่าผม”
มีศิลปินหลายคนที่นำเพลงนี้ไปร้องรวมถึงโจอัน บาเอซ (Joan Baez) และปีเตอร์ พอล แอนด์มารี่ (Peter, Paul and Mary) เพลงๆนี้ยังถูกร้องและเล่นเพื่อใช้เป็นเพลงเพื่อเรียกร้องสันติภาพรวมทั้งต่อต้านสงครามที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมารวมทั้งสงครามอิรักด้วย
Youtube :
Bob Dylan – Blowin’ in the Wind (Audio)
เครดิตภาพ Siam Review, Rolling Stone, Justrandomthings
#บทเพลงแห่งสันติภาพ #สันติภาพ #บอบ ดีแลน